ปัจจุบันนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพพยายามเข้าถึงระบบและข้อมูลสำคัญ หนึ่งในข้อมูลสำคัญที่มิจฉาชีพเหล่านี้ให้ความสนใจคือ การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว หรือการหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัวของเรา เพื่อนำไปใช้งานแทนเจ้าของข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประกอบยืนยันตัวตนสวมรอยเป็นเรา เข้าไปโจรกรรมสร้างความเสียหายให้กับเจ้าของข้อมูล อีซี่สลิปบอกต่อ สำหรับวิธีป้องกันข้อมูลส่วนตัว รั่วไหล ป้องกันภัยจากมิจฉาชีพ ว่ามีอะไร วิธีแก้ไขปัญหาเมื่อตกเป็นเหยื่อ ทำอย่างไรได้บ้าง
วิธีป้องกันข้อมูลส่วนตัว ไม่ตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อการสื่อสาร, การทำธุรกรรมออนไลน์, และการทำงานกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำ แต่ในขณะเดียวกันก็มีภัยคุกคามทางออนไลน์ที่รออยู่ เช่น การโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว, การหลอกลวงทางการเงิน, หรือการแฮกบัญชีที่อาจทำให้ข้อมูลสำคัญของเราถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด การปกป้องข้อมูลส่วนตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์ วันนี้เรามีวิธีป้องกันที่สามารถปฏิบัติได้จริงเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลส่วนตัวของคุณ
1. อย่าคลิกลิงก์ เว็บไซต์ที่ไม่คุ้นเคย
กฎเหล็กของการใช้อินเทอร์เน็ตคือห้ามคลิกลิงก์หรือไฟล์แนบ นอกจากคุณจะรู้ว่าลิงก์นั้นมาจากใคร แฮกเกอร์จำนวนมากจะส่งลิงก์หรือไฟล์แนบพร้อมข้อความที่เกี่ยวข้องเพื่อหลอกให้คุณคลิก โดยทั่วไปลิงก์หรือไฟล์แนบเหล่านี้จะซ่อนมัลแวร์ที่สามารถขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เข้าถึงรหัสผ่าน หรือสอดแนมพฤติกรรมของคุณ เรื่องราวทั่วไปที่แฮกเกอร์มักจะใช้ได้แก่
- มีหมายจับเป็นชื่อของคุณ
- คุณถูกแฮกหรือสอดแนมแล้ว
- มีปัญหาการส่งไปรษณีย์
- มีคนปิดการใช้งานบัญชีของคุณ
- ข้อมูลธนาคารของคุณถูกขโมย
เมื่อคลิกไปแล้ว ก็อาจทำให้ถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลทางการเงินต่าง ๆ ได้ ธันเดอร์ แนะนำให้ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสไว้ ช่วยสแกนให้ได้ว่าลิงก์นั้นปลอดภัยหรือไม่ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกขโมยข้อมูลได้
2. ปิดบลทูธไว้ ถ้าไม่ได้ใช้งาน
ถ้าเราเปิดบลูทูธทิ้งไว้ ก็อาจจะเสี่ยงต่อการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ไม่รู้จักทำให้ข้อมูลภายในโทรศัพท์ของเรารั่วไหลได้
3.ตั้งรหัสผ่านให้ยากไว้ก่อน
ไม่ใช้รหัสซ้ำกับแอปอื่น ๆ เพราะยิ่งรหัสผ่านซ้ำ โอกาสที่จะโดนแฮ็กข้อมูลก็ยิ่งเป็นไปได้ง่าย การใช้รหัสผ่านเดิมซ้ำๆ เพื่อความสะดวกขอบคุณ แต่นั่นหมายความว่าหากมีคนถอดรหัสรหัสได้ พวกเขาจะสามารถเข้าถึงบัญชีที่สำคัญทั้งหมดของคุณได้ ถ้าเป็นไปได้ควรตั้งรหัสผ่านของคุณต่างกัน ใช้ตัวเลข ตัวอักษร การใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ และอักขระพิเศษที่หลากหลาย
4.เปิดใช้ระบบพิสูจน์ตัวตน 2 ชั้น ป้องกันการแฮ็ก
การตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัย (2FA) จะตรวจสอบความพยายามในการเข้าสู่ระบบแต่ละครั้งเพื่อบล็อกการเข้าสู่ระบบจากบุคคลที่อาจขโมยรหัสผ่านบัญชี โดยจะมีการส่งชุดรหัสยืนยันให้เจ้าของบัญชียืนยันตัวตนเพิ่มเติม เช่น ข้อความหรืออีเมลพร้อมรหัสที่ไม่ซ้ำกันทุกครั้งที่ต้องเข้าสู่ระบบ ในการเข้าถึงบัญชี คุณต้องมีชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และ เข้าถึงรหัสแบบครั้งเดียว
ถ้ามีการเข้าสู่ระบบอย่างไม่ถูกต้องก็จะมีข้อความแจ้งเตือนไปที่บัญชีของเรา เพียงแค่นี้ก็จะทำให้เรารู้ว่ากำลังมีคนพยายามแฮ็กข้อมูลเราอยู่นั่นเอง
5.ลบประวัติการเข้าชมเว็บไซต์อย่างบ่อย ๆ
วิธีนี้นี้จะช่วยลดจำนวนการถูกติดตามในโลกออนไลน์ ที่ทำให้เสี่ยงต่อการโดนฉกฉวยข้อมูลไป เพราะประวัติการเข้าชม จะเป็นตัวบันทึกเหตุการณ์ และการกระทำต่าง ๆ ของเราบนโลกออนไลน์
ต้องทำอย่างไรเมื่อตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
เมื่อรู้ตัวว่ากำลังโดนหลอกลวงให้ตั้งสติ และหยุดการติดต่อกับมิจฉาชีพทันที
แจ้งธนาคารที่ใช้บริการทันที ผ่านช่องทาง Hotline คอลเซ็นเตอร์ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อสาขาธนาคาร ภายในเวลาทำการ เพื่อทำการระงับธุรกรรม หรือบัญชีชั่วคราวของผู้เสียหาย และบัญชีปลายทาง
แจ้งความอย่างรวดเร็วภายในเวลา 72 ชั่วโมง ผ่านทาง www.thaipoliceonline.com ตลอด 24 ชั่วโมง หรือไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ
สัญญาณเตือนของแฮกเกอร์
สิ่งสำคัญคือต้องทราบสัญญาณทั่วไปของการถูกแฮก เพื่อให้คุณสามารถดำเนินการโดยเร็วที่สุด
- การใช้งานอินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์เพิ่มขึ้นสูงมาก
- ความเร็วการทำงานของอุปกรณ์ช้าลง
- แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็วโดยไม่มีคำอธิบาย
- คุณได้รับคำขอเปลี่ยนรหัสผ่านโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่นใหม่จะถูกดาวน์โหลดโดยอัตโนมัติ
สรุป
สุดท้ายแล้ว ต้องมีสติในการทำธุรกรรมการเงินทุกครั้ง รวมถึงพ่อค้า แม่ค้า ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆที่รับเงินผ่านธุรกรรมการโอนเงินต่างๆ ด้วยแล้ว เพราะถ้าหากไม่ระแวดระวัง อาจหลงกล ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นทั้งจากสลิปโอนเงินปลอมต่างๆ รวมถึงให้ระมัดระวังในการให้ข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ให้รหัส OTP ในการทำธุรกรรมการเงินกับใคร ระมัดระวังการคลิกลิงก์ โดยเฉพาะถ้าหากแจ้งว่ามาจากธนาคารให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าเป็นมิจฉาชีพเพราะธนาคารไม่มีนโยบายส่งลิงก์ให้กับลูกค้า รวมถึงให้ระมัดระวังในการติดตั้งแอปต่าง ๆ โดยควรเลือกดาวน์โหลดจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นเกราะป้องกันภัยเบื้องต้น ไม่ให้หลงตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพต่าง ๆ ได้โดยง่าย
แท็ก:
หมวดหมู่: ข่าวสาร
บทความที่เกี่ยวข้อง
เทคโนโลยีทางธุรกิจ ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและรายได้ให้กับร้านค้า
ตัวช่วยผู้ประกอบการ ตัวอย่างการนำ เทคโนโลยีทางธุรกิจ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรายได้ในร้านค้าและร้านอาหาร ด้วยการใช้แพลตฟอร์มการขายออนไลน์Read more
แนวทางและ วิธีปกป้องข้อมูลส่วนตัว ไม่ตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์จากมิจฉาชีพ
ปัจจุบันนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพพยายามเข้าถึงระบบและข้อมูลสำคัญ หนึ่งในข้อมูลสำคัญที่มิจฉาชีพเหล่านี้ให้ความสนใจคือ การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว หรือการหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัวของเรา เพื่อนำไปใช้งานแทนเจ้าของข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประกอบยืนยันตัวตนสวมรอยเป็นเรา เข้าไปโจรกรรมสร้างความเสียหายให้กับเจ้าของข้อมูล อีซี่สลิปบอกต่อ สำหรับวิธีป้องกันข้อมูลส่วนตัว รั่วไหล ป้องกันภัยจากมิจฉาชีพ ว่ามีอะไร วิธีแก้ไขปัญหาเมื่อตกเป็นเหยื่อ ทำอย่างไรได้บ้าง วิธีป้องกันข้อมูลส่วนตัว ไม่ตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์ ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อการสื่อสาร, การทำธุรกรรมออนไลน์, และการทำงานกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำ แต่ในขณะเดียวกันก็มีภัยคุกคามทางออนไลน์ที่รออยู่ เช่น…Read more
วิธีเช็คสลิปปลอม ผ่านแอพเช็คสลิปโอนเงิน vs แอพธนาคาร
วิธีตรวจสอบสลิปปลอม ด้วย วิธีเช็คสลิปปลอมผ่านไลน์ บริการตรวจสอบสลิป รวดเร็ว และแม่นยำ · ด้วย API สุดล้ำของเราเพียงส่งเป็นรูปสลิปเข้าไลน์กลุ่ม ก็รู้ผลทันทีRead more